มาแล้วกับ Android 9.0 Pie ที่ก่อนหน้านี้ได้ให้ทดลองกับสมาร์ทโฟนเฉพาะรุ่นที่เข้าร่วมโครงการ Android P Beata แต่ตอนนี้ตัวจริงก็ได้ถูกปล่อยมาให้ใช้งานกันเรียบร้อยบน Pixel และ Essential Phone เรามาดูฟีเจอร์เด่นๆกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

Adaptive Battery

Android Pie คือความเป็นระบบปฏิบัติการ AI ที่นำ Machine Learning มาเรียนรู้และปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนมากที่สุด ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ Machine Learning เข้ามามีบทบาทคือแบตเตอรี่ ฟีเจอร์นี้ได้ AI จาก DeepMind มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานแอปต่างๆ บนเครื่อง ก่อนจะแยกเป็นแอปที่ใช้งานบ่อยและแอปที่นานๆ ใช้งานที รวมถึงคาดเดาว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เรามีแนวโน้มจะใช้แอปไหนและไม่ใช้แอปไหน ก่อนที่จะจำกัดการทำงานของแอปที่เราไม่น่าจะใช้ ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ จากการเก็บข้อมูลในแรมหรือการประมวลผลไปได้ส่วนคนที่กังวลเรื่องความเป็นส่วน Google ยืนยันว่า กระบวนการเรียนรู้ของ AI จาก DeepMind จะเกิดขึ้นบนเครื่อง ไม่ใช่คลาวด์

Slices

Slices คือฟีเจอร์ที่สามารถแสดงผล “ส่วนหนึ่ง” ของแอปได้จากหน้าค้นหาบน Launcher, Google App หรือจาก Google Assistant ทำให้สามารถเรียกคำสั่งจากแอป ได้โดยไม่ต้องเปิดแอปเลย เช่น ถ้าค้นหาคำว่า Chiang rai นอกจากข้อมูลทั่วไปหรือสภาพอากาศ จะมีภาพที่ถ่ายใน เชียงรายจาก Google Photos ขึ้นมาให้ หรือจากตัวอย่างที่ Google ยกขึ้นมาตอนเปิดตัว อย่างการเสิร์ชแอป Lyft ก็จะมีตัวเลือกกดเรียกรถกลับบ้านหรือเรียกไปที่ทำงานผ่าน Lyft ได้เลย

App Actions

ฟีเจอร์ที่ใช้ AI ในการคาดเดาคำสั่งแอพ ที่แสดงมาให้ผ่าน Launcher เช่น เสียบหูฟังเข้าโทรศัพท์ ก็จะปรากฎเพลย์ลิสต์ของนักร้องคนโปรดผ่าน Spotify มาให้

 

Security

Android Pie จะจำกัดการเข้าถึงเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น กล้องและไมโครโฟน ของแอปที่ไม่ได้ถูกเปิดขึ้นมาใช้ เรียกได้ว่า แอปที่อยู่เบื้องหลังจะไม่สามารถทำอะไรลับๆ ล่อๆ โดยที่เราไม่รู้ได้อีกแล้ว

 

Digital Wellbeing

  • Dashboard โชว์ระยะเวลาที่เราใช้งานสมาร์ทโฟน แยกเป็นรายแอพ รวมถึงสถิติข้อความเตือนที่ได้รับในแต่ละวัน
  • App Timer กำหนดระยะเวลาในการใช้แอพแต่ละตัวได้ หากแอปตัวไหนหมดเวลา สีของไอคอนจะเปลี่ยนเป็นสีเทา
  • Do Not Disturb โหมดไร้การรบกวนใดๆ ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมถึงไม่แสดงขึ้นมาเตือนบนหน้าจอด้วย แต่ก็ยังอนุญาตให้คนสำคัญโทรมาได้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
  • Wind Down โหมดก่อนนอน จะลดสีของหน้าจอลงเหลือเป็นขาวดำ และเปิดการทำงานของ Night Light กับ Do Not Disturb เมื่อถึงเวลาเข้านอน เพื่อให้รู้ตัวว่าได้เวลานอนแล้ว

แต่ตัว Digital Wellbeing ยังเป็นเพียงเวอร์ชั่นเบต้าเท่านั้นและจะปล่อยทดสอบเฉพาะผู้ใช้ Pixel ที่รัน Android Pie ก่อน หากใครสนใจสามารถไปลงทะเบียนได้ที่ Android

 

ที่มา : blognone

 

 

 

 

บริษัท SC-sparksolution (www.sc-sparksolution.com) บริการรับทำ website E-commerce Application รองรับทั้ง iOS และ Android ใช้งานได้ทั้ง Smart Phone และ Tablet รับพัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบน iOS, Android รวมถึง Graphic Design หรือ Web Application โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถแข่งขันในตลาดธุรกิจยุคดิจิตอลที่มีการเติบโตและแข่งขันกันสูงขึ้นในปัจจุบันได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร เพราะ Website หรือ Application ก็เปรียบเสมือนหน้าร้านของบริษัทในโลกออนไลน์ สามารถเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทอีกด้วย หากคุณสนใจจะทำApplication หรือเว็บไซด์ให้กับบริษัทของคุณ

ติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่นี่ https://www.sc-sparksolution.com/price