สวัสดีครับ ผมชื่อ โจ้ จากบริษัท SC-Spark Solution วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ไต้หวันเมื่อผมเรียนอยู่ปีสอง ณ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นการเเลกเปลี่ยนนระยะสั้นเวลา 1 เดือน จะเป็นอย่างไรนั้นไปเริ่มกันเลย !!!

เรื่องเริ่มจากทางมหาวิทยาลัยนั้นได้จัดโครงการเเลกเปลี่ยนระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และมหาวิทยาลัย Asia University ไต้หวัน ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยน ระยะเวลา 1 เดือน โดยให้นักศึกษาได้ลงเรียนวิชา Web Application Design And Development ที่ Asia University

หลังจากที่รู้ว่าสอบเข้าโครงการนี้ติด ผมก็ได้ไปทำเรื่องขอ Visa ไปไต้หวัน วันนั้นผมจำได้ว่าผมต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อไปรอต่อแถวทำ Visa ที่ อบจ. ผมคิดว่ามาแต่เช้าแล้ว แต่ก็ยังมีคนเช้ากว่าผม ผมจำได้ว่าได้คิวที่ 82 (ใครซื้อหวยแล้วถูกมาบอกผมด้วยนะ) วันนั้นผมรอเกือบ 2 ชั่วโมงถึงจะถึงคิว และแล้ววันนั้นผมก็เสีย 1,000 บาท กับ Visa หนึ่งเล่ม

พอถึงวันที่ต้องเดินทาง วันนั้นผมขึ้นเครื่องจากเมืองไทย (กรุงเทพฯ ดอนเมือง) เมื่อตอนเย็นๆ ไปถึงที่ไต้หวันเมืองเถาหยวนก็ประมาณตี4 ทันไดนั้นผมก็เจอเซอร์ไพรส์แรกนั้นก็คือ ตม. ประเทศไต้หวันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ !! ยังดีที่ผมพูดภาษาจีนได้บ้างเลยผ่าน ตม. มาได้ วันนั้นผมรู้สึกทรามานมากๆเพราะกว่ารถที่มหาลัยจะมารับพวกเรา เราต้องนั่งรอที่สนามบินตั้งแต่ตี4 จนถึง 9โมงเช้า

พอไปถึงมหาลัย Asia University ตอนนั้นทุกคนอ่อนเพลียมาก รถเมย์ของมหาวิทยาลัยได้พาเราเข้าไปในโซนข้างในซึ่งเป็นโซนของหอพักนักศึกษา ณ ตอนนั้นทุกคนรีบเข้าห้องพักอาบน้ำนอน

เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ได้มีรุ่นพี่นักศึกษา Asia University มารับที่หน้าหอพักและพาทัวร์รอบๆ มหาวิยาลัย Asia University นั้นเป็นมหาวิทยาลัยขนาดกลางๆมีเนื้อที่ประมาณ 5 สนามฟุตบอล ล้อมรอบไปด้วยตึกเรียนคณะต่างๆและมีต้นไม้ล้อมรอบตึกเรียนซึ่งดูแล้วร่มลื่นมากๆ

และแล้วก็มาถึงห้องเรียนเขียน web ของเรา อาจารย์ประจำวิชานี้ก็ได้ประถมนิเทศ และได้แนะนำตัวเองชื่ออาจารย์ Edgar รับหน้าที่สอน Web design และพาเที่ยวรอบไต้หวันตลอดทั้ง 1 เดือนของคอร์สเรียนนี้

วันแรกของเรานั้นได้เรียนเรื่องส่วนประกอบของเว็บไซต์ซึ่งอาจารย์ก็ได้อธิบายได้ดีมาก อาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่าเว็บไซต์นั้นก็เปรียบเสมือนกับร่างกายคนเรา HTML นั้นเปรียบเหมือนกับโครงกระดูกของคนเรา มีหน้าที่สร้างโครงของร่างกาย เช่นมีแขนสองแขน ขาสองข้าง หัว1หัวเป็นต้น ส่วน CSS นั้นก็เป็นเป็นเหมือนกับ ความสวยงามของร่างกายคนเรา มีหน้าที่กำหนดสีผิว สีผม สีตา เป็นต้น ส่วน JavaScript นั้นก็เหมือนกับกล้ามเนื้อของคนเรา หากคนเราไม่มีกล้ามเนื้อ ก็เหมือนกับคนที่มีแต่กระดูกแล้วขยับไม่ได้ เพราะฉนั้นถ้าเราเพิ่ม JavaScript มีหน้าที่สร้าง Action ให้กับเว็บไซต์ของเราเช่น กดปุ่มแล้วบันทึกข้อมูล เป็นต้น

เรียนจบแล้วตกเย็นเราก็ไปนั่งกินข้าวร้านใกล้ๆมหาลัย เมื่อลองเดินดูแล้วเราก็ตกใจมากๆเพราะราคาอาหารที่นี้นั้นเริ่มต้นจานละ 65 บาทเป็นขั้นต่ำ เราเดินไปซอยลึกๆยังดีที่เห็นร้านหนึ่ง เป็นร้านที่ขายข้าวให้นักศึกษาโดยเฉพาะ โดยขายกับข้าวสามอย่าง จานละ 55 บาท เป็นร้านที่ดีมากๆเลย ถ้าใครได้แวะมาเมืองเถาจงลองแวะมากินร้านนี้ได้นะครับ มีทั้งปลาทอด ไก่ทอด หมูทอดให้เลือกแยะแยะมากมาย แถมมีน้ำซุปกระดูกวัวให้ได้ซดให้ชื่นใจหลังกินข้าวเสร็จ ดีสุดๆไปเลย ~

ตกดึกเราเริ่มหิวกันอีกรอบ เลยพากันไปซื้อข้าวกินที่ใกล้ๆมหาลัยอีกรอบ แต่แล้วก็ได้รู้ว่าร้านที่อยู่ในเมืองนี้นั้นปิดร้านเร็วมากๆ ประมาณ 1 ทุ่มร้านก็ปิดเกือบหมดแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ที่จะซื้อได้ก็มีเพียงแค่ร้าน 7 – 11 หน้ามหาลัยเพียงเท่านั้น เราก็พากันไปซื้อมาม่ากักตุนไว้บนหอ ขณะที่ซื้อมาม่าอยู่นั้นก์เจอเรื่องเซอร์ไพรส์ก็คือ เราเจอมาม่าคัพที่เราซื้อกับ คัพละ 15 บาท แต่ขายที่ไต้หวันคัพละ 35 บาท ผมเองก็พูดเล่นกับเพื่อนเลยว่าเราน่าจะทำธุรกิจซื้อมาม่าจากไทยมาขายที่ไต้หวันนะ น่าจะรวยมากๆเลย และแล้วก็จบสำหรับวันแรกของการเรียนเขียนเว็บไซต์ ณ ไต้หวันครับผม

เดียวตอนหน้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังที่สุดในไต้หวัน เป็นย่านที่ขึ้นชื่อว่าเมืองศิลปะ อยากรู้ว่าเป็นที่ไหนนั้น โปรดติดตามตอนต่อไปของ “เรียนเขียนเว็บ @ Taiwan (part2)” ด้วยนะครับ บทความนี้ผิดพลาดแต่ประการใดขอขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับขอบคุณครับ