อนาคตของเทรนด์ ERP ที่ต้องระวัง

อนาคตของระบบ ERP กำลังถูกกำหนดโดยแนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ๆ นี่คือแนวโน้มสำคัญที่ควรจับตามอง:

 

  1. ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (AI และ Machine Learning)

           การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์: AI และ Machine Learning จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ ERP ด้วยการให้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ซึ่งสามารถทำนายความต้องการ ปรับปรุงซัพพลายเชน และระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดขึ้น

           การทำงานอัตโนมัติ: AI จะทำให้กระบวนการที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การคาดการณ์ทางการเงิน การวางแผนความต้องการ และการจัดการทรัพยากรบุคคลเป็นอัตโนมัติ ลดความจำเป็นในการแทรกแซงด้วยมือและเพิ่มประสิทธิภาพ

 

  1. โซลูชัน ERP บนคลาวด์

           การยอมรับที่เพิ่มขึ้น: ธุรกิจจำนวนมากจะเปลี่ยนไปใช้โซลูชัน ERP บนคลาวด์เนื่องจากมีความยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ง่าย และมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า

           โมเดลไฮบริด: โมเดล ERP แบบไฮบริดที่รวมการติดตั้งทั้งในองค์กรและบนคลาวด์จะได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากทั้งสองรูปแบบ

 

  1. อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT)

           ข้อมูลเรียลไทม์: อุปกรณ์ IoT จะให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์แก่ระบบ ERP ปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง การติดตามทรัพย์สิน และการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์

           การมองเห็นที่ดีขึ้น: การรวม IoT จะช่วยให้เห็นการดำเนินงานได้ดีขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบและควบคุมกระบวนการทางธุรกิจได้แม่นยำยิ่งขึ้น

 

  1. ERP บนมือถือ

           การเข้าถึง: โซลูชัน ERP บนมือถือจะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงฟังก์ชัน ERP จากทุกที่ เพิ่มผลผลิตและการตัดสินใจ

           ประสบการณ์ผู้ใช้: การเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนมือถือจะนำไปสู่แอปพลิเคชัน ERP บนมือถือที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น

 

  1. การรวมระบบและการทำงานร่วมกัน

           API และ Microservices: การใช้ API และ Microservices จะช่วยให้การรวมระบบ ERP กับซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มอื่นๆ เป็นไปได้ดีขึ้น ทำให้ข้อมูลไหลเวียนและการทำงานอัตโนมัติเป็นไปอย่างราบรื่น

           แพลตฟอร์มรวม: ธุรกิจจะมองหาแพลตฟอร์มที่รวม ERP เข้ากับแอปพลิเคชันทางธุรกิจอื่นๆ เช่น CRM, HRM และ SCM เพื่อการดำเนินงานที่ครอบคลุมและไร้รอยต่อ

 

  1. การวิเคราะห์ขั้นสูงและการวิเคราะห์ธุรกิจ (BI)

           ข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูล: เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงและ BI ที่รวมเข้ากับระบบ ERP จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งและเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปปฏิบัติได้มากขึ้น ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจดีขึ้น

           BI แบบบริการตนเอง: ความสามารถในการใช้ BI แบบบริการตนเองจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานและแดชบอร์ดของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจาก IT

 

  1. เทคโนโลยีบล็อกเชน

           ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: บล็อกเชนจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบ ERP โดยให้บัญชีแยกประเภทที่ไม่สามารถแก้ไขได้สำหรับการทำธุรกรรมและข้อมูล

           ความโปร่งใสของซัพพลายเชน: บล็อกเชนจะปรับปรุงความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชน ทำให้มั่นใจในความถูกต้องของผลิตภัณฑ์และลดการฉ้อโกง

 

  1. การปรับแต่งและความยืดหยุ่น

           แพลตฟอร์ม Low-Code/No-Code: แพลตฟอร์ม Low-Code และ No-Code จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งระบบ ERP ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมมากมาย

           ERP แบบ Agile: ระบบ ERP แบบ Agile ที่สามารถปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อความต้องการและกระบวนการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงจะได้รับความนิยมมากขึ้น

 

  1. มุ่งเน้นประสบการณ์ผู้ใช้

           อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย: ผู้ให้บริการ ERP จะมุ่งเน้นในการสร้างอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ เพื่อเพิ่มการนำมาใช้และความพึงพอใจของผู้ใช้

           การปรับแต่งส่วนบุคคล: ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล ที่ระบบ ERP ปรับตามความชอบและการทำงานของผู้ใช้แต่ละคน จะเพิ่มผลผลิต

 

  1. การปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัยของข้อมูล

           การจัดการการปฏิบัติตามกฎระเบียบ: ระบบ ERP จะรวมฟีเจอร์มากขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจจัดการการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

           ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: ด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ระบบ ERP จะนำมาตรการป้องกันข้อมูลที่เข้มงวดขึ้นเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบเช่น GDPR และ CCPA

 

  1. ความยั่งยืนและ ERP ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

           ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: ระบบ ERP จะรวมฟีเจอร์ที่ช่วยติดตามและจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ สนับสนุนการริเริ่มความยั่งยืน

           ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน: AI และ IoT จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและลดการใช้พลังงานในกระบวนการทางธุรกิจต่างๆ

 

 สรุป

           อนาคตของระบบ ERP กำลังจะเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมโดยความก้าวหน้าในด้าน AI การประมวลผลบนคลาวด์ IoT และเทคโนโลยีใหม่ๆ ธุรกิจที่ก้าวตามแนวโน้มเหล่านี้และนำสิ่งใหม่ๆ มาใช้จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขับเคลื่อนการเติบโต และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้ การมุ่งเน้นที่การรวมระบบ ประสบการณ์ผู้ใช้ และความยั่งยืนจะทำให้ระบบ ERP ยังคงพัฒนาต่อไปเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม

 


 

สำหรับท่านที่ต้องการทำ แอพ E-Commerce , App ช้อปปิ้ง หรือ แอพ Delivery แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ บริษัท SC-Spark Solution  บริษัท รับทำแอป เป็นบริษัทที่รับทำแอพพลิเคชั่น ที่มากประสบการณ์ โดยมีประสบกาณ์โดยตรงจาก Silicon Valley เป็นบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นมากกว่า 100 บริษัททั่วโลก ทั้งแบบ Custom และ สำเร็จรูปให้คุณได้เลือกใช้ หากใครสนใจ บริการทำโมบายแอพพลิเคชั่น หรือ เว็บไซต์ สามารถติดต่อได้ที่นี่  

ติดต่อเราได้ที่

โทร : 062-974-9495

Line : @scspark

Email : [email protected]

Facebook : SC-Spark Solution บริการทำแอปพลิเคชั่น


“Nothing is impossible”